วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

จงรักภักดี2

จงรักภักดี


กระแสพระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๒๗-๕-๒๕๕๐

ข้าพเจ้าเองก็ในใจมีคำตัดสินอยู่ แต่บอกท่านไม่ได้ เพราะไม่มีสิทธิที่จะบอก ท่านเองก็ไม่มีสิทธิ แต่ท่านต้องมีการตัดสินในใจ ว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญเขาจะตัดสินถูกหรือไม่ ตรงนี้อยู่ในใจ แต่เขาจะตัดสินอย่างไรเดือดร้อนทั้งนั้น เสียหายทั้งนั้น คำตัดสินของเขาเดือดร้อน เสียหายสำหรับท่านเองทั้งนั้น ข้าพเจ้าก็เดือดร้อน ไม่มีสิทธิที่จะมาบอกว่าเขาทำถูก หรือไม่ถูก แต่รู้ในใจว่าเขาจะตัดสินอย่างไรก็ตาม รู้ในใจว่าเขาทำถูกหรือผิด ส่วนใหญ่ก็นึกว่าเขาทำผิดแน่

แม้กระนั้นก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาให้ข้อมูลว่าประมุขที่เป็นเจ้าของหมานั้นไม่รู้เรื่อง ถึงกับมีการปั่นข่าวไปปรากฏอยู่ตามเว็บต่างๆว่า มีคนเห็นในหลวงแอบร้องไห้เพราะเสียใจที่สังคมเกิดความแตกแยก บ้างก็โยนไปเป็นความผิดของ ซูสีไทเฮา ผู้เมียตามที่เรียกขานกันอยู่ในเวลานั้น ข้อซุ๊บซิ๊บนินทามาปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเรื่องที่ผู้คนสงสัยทั้งแผ่นดินในพฤติกรรม ราชสีห์คบโค (คนที่มียศศักดิ์ลดตัวลงไปคบคนพาล) นั้นเป็นความจริงนั่นก็คือ

สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตร ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ น้องโบว์-อังคณา ระดับปัญญาวุฒิพร้อมทรงโปรดฯ ให้ครอบครัวน้องโบว์เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิด ก่อนเสด็จฯกลับ ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับ สนธิ ลิ้มทองกุลด้วยสีพระพักตร์ยิ้ม นายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ บิดา นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม

ราชินีนาถ ทรงรับสั่งและชม ว่า
ลูกสาวเป็นเด็กดีช่วยชาติ ช่วยรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งตนได้กราบทูลฯกลับไปว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ มา นอกจากนี้ท่านยังตรัสอีกว่า "เป็นห่วงพันธมิตรทุกคน ไว้จะฝากดอกไม้ไปเยี่ยมพันธมิตร"นายจินดา กล่าวอีกว่า พระองค์ท่านยังทรงรับสั่งว่า ขอให้กำลังใจกับครอบครัวสู้ต่อไป และพระบาทสม เด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับทราบแล้ว และเงินที่เป็นค่ารักษา ในหลวงเป็นผู้พระ ราชทานให้ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัว

(กลับไปอ่านบทความเรื่อง หุ่นกระบอกการเมืองตอนที่ ๓)

ภายหลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์ผ่านพ้นไป ก็มีสารพัดฉายาที่ผู้คนถวายให้ ด้วยความจงรักภักดี จากระหัส ๙๐๒, เจ้หงษ์ หรือ น้านี ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลเรียกหาด้วยความสนิทสนม มาเป็นชะนี, อีอ้วน, ปลาวาฬและนางผีเสื้อสมุทรปรากฏตามเว็บต่างๆให้เสื่อมเสียเกียรติยศที่อุตส่าห์สร้างภาพและครอบงำคนทั้งแผ่นดินด้วยความ ยากลำบากมายาวนานมีอันต้องป่นปี้ ไม่เหลือให้ผู้คนได้เคารพและนับถืออีกต่อไป และแทนที่จะจดจำปฏิกริยาของคนทั้งประเทศว่าพวกเขามีความรู้สึกอย่างไร แต่กลับย่ามใจที่วันเกิดในปีนี้ตามข่าวแจ้งว่า

เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ชิงชัย ศิลปินผู้สูญเสียมือขวาจากเหตุการณ์ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ พร้อมภรรยาเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่นายชิงชัยวาดด้วยมือซ้าย ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารว่า เก่งมาก

การที่ราชินีสิริกิติ์อนุญาติให้นายตี๋ ชิงชัยและเมียเข้าเฝ้าฯ ทั้งๆที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้กุมระเบิดปิงปองเข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนฯที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไปปิดล้อมตึกรัฐสภาจนมือข้างขวาขาด ผมอยากแจ้งเตือนพี่น้องชาวไทยทุกคนว่าอย่าได้มองข้าม เป็นอันขาด เพราะนี่เป็นการส่งสัญญาณอย่างมีนัยว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน พฤติกรรมของสถาบันฯที่แสดงชัดเจนว่าเป็นผู้สนับสนุนการป่วนเมือง ไม่ได้มีเป้าหมายหยุดอยู่เพียงแค่ทำลายคุณทักษิณให้พ้นเส้นทางการเมืองเท่านั้น หากแต่ต้องการถึงขั้นล้มล้างระบอบ

ประชาธิปไตย เพื่อสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ดังที่ พล.ต.อ.วิสิษฐ เดชกุญ ชร ที่ได้ชื่อว่ามีความจงรักภักดีและเป็นที่ไว้วางใจอย่างที่สุด กล้าออกมาประกาศว่าเวลานี้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตย ด้วยเหตุผลที่ว่า ประเทศไทยเป็นราชอา ณาจักร ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เป็นที่เข้าใจว่ากษัตริย์มีอำนาจเหนือรัฐและคนทั้งปวงในประเทศ

(ขอให้ท่านผู้อ่านจับตาดูรัฐบาลที่จะผ่านช่องทางพิเศษในอนาคตอันใกล้นี้)

ประเทศไทยต้อง ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เท่านั้น ไม่ใช่ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อย่างที่หมารับใช้อย่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์แต่งคำขึ้นมาเพื่อประจบเอาใจและพวกหมารับใช้ทั้งหลายร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนและใช้กฏหมายหมิ่นฯบังคับคนทั้งประเทศให้ต้องยอมรับ(เพราะไม่สามารถวิจารณ์) กษัตริย์ภูมิพลไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นประมุขของประเทศไทยอย่างเด็ดขาด(เพราะคุณถือสัญชาติอเมริกัน และรับใช้ประเทศอเมริกามาโดยตลอด) ซึ่งในความเป็นจริงแค่สถาบันครอบครัว กษัตริย์ภูมิพลก็ถือได้ว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะไม่สามารถปกครองลูกเมียให้อยู่กับร่องกับรอยได้อย่างครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเสียด้วยซ้ำ กษัตริย์ภูมิพลจึงไม่สามารถเป็นได้แม้กระทั่งหัวหน้าครอบครัวที่ดี แต่ดันให้พวกหมารับใช้ยัดเยียดให้เป็นพ่อของคนทั้งแผ่นดินที่เรียกว่า

“พ่อแห่งแผ่นดิน” และ “แม่แห่งแผ่นดิน” สำหรับเมียของตัวเอง

ผมเกิดมาก็มีเพียงพ่อเดียวและแม่เดียวที่เลี้ยงกล่อมผมมาจนเติบใหญ่ที่ไม่เคยสร้างความ เดือดร้อนให้กับผู้ใดทั้งสิ้น ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็มีเพื่อนบ้านที่วิ่งเล่นและเติบโตมาด้วยกันจนถึงวัยอันควร พ่อแม่ผมก็ส่งเสริมให้ผมได้เล่าเรียน ผมก็เลยได้เพื่อนนักเรียนมาเป็นเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งผมจบการศึกษาและสมัครเข้าทำงานผมก็มีเพื่อนร่วมงาน เพื่อนทั้งสามกลุ่มที่กล่าวมาก็ยังคบค้าสมาคมอยู่แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ โดยไม่มีปัญหาข้อขัดแย้ง นี่ย่อมแสดงถึงความเป็นพ่อเป็นแม่ของผมนั้น ท่านเอาใจใส่ในการเลี้ยงดูอบรมบ่มนิสัยให้ผมเป็นคนดีมาตลอดทุกช่วงแห่งชีวิตของผม พ่อแม่ของผมไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปหาเรื่องตักตวง เอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมชาติไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พ่อแม่ของผมจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลากับการสร้างภาพเพื่อโฆษณาชวนเชื่อให้กับตัวเอง

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ต้องเสียเวลาไปเลี้ยงดูพวกหมารับใช้ให้ยุ่งยาก เพราะพ่อแม่ผมไม่มีศัตรู ท่านทั้งสองจึงมีเวลาเพียงพออย่างเหลือเฟือที่จะมาดูแลลูกๆทุกคนอย่างใกล้ชิดและอบอุ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น