วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

จงรักภักดี1

จงรักภักดี

บทความเรื่องกษัตริย์ซึ่งเป็นบทความล่าสุด ที่ผมเขียนขึ้นและส่งออกเผยแพร่เมื่อ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ ทั้งนี้ผมปรารถนาที่จะให้พี่น้องประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจว่าตำแหน่งกษัตริย์นั้นมีที่ไปที่มาอย่างไร เพื่อที่พี่น้องคนไทยทุกคนจะได้ไม่ต้องตกอยู่ภาย ใต้อิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อ ที่ว่ากษัตริย์เป็นพระเจ้าอย่างที่กล่าวอ้างและถูกใช้ครอบงำมาโดยตลอด ผมเข้าใจว่าบทความของผมจะสามารถจุดประกายให้พี่น้องคนไทยเลิกกลัวและไม่ต้องหวั่นเกรงกับสิ่งที่ขาดหลักของเหตุและผล เพราะบนความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดสำหรับใครก็ตามที่อยู่บนอำนาจมาอย่างยาวนานย่อมต้องกลายเป็นคนที่มีบารมีดังเช่นตำแหน่งกษัตริย์เป็นต้น

แต่การใช้บารมีที่มีอยู่ตามน้ำข่มขู่ทำลายผู้คนตามอำเภอใจ มันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจของคนที่รักความเป็นธรรม

ทุกคนไม่อาจที่จะรับได้ ซึ่งรวมทั้งตัวผมด้วย แต่ผมก็ยังจำกัดอยู่เพียงแค่กลุ่มบุคคลรับใช้ใกล้ชิดโดยเฉพาะตัวประธานองคมนตรีที่ชื่อเปรม ผมยกอ้างกฏหมายมาตรา ๑๑๒ มาอธิบายให้เห็นว่าไม่มีผลครอบคลุมไปถึงตำแหน่งประธานองคมนตรี เพราะตำแหน่งนี้เป็นเพียงที่ปรึกษาของกษัตริย์ และเปรมเป็นสามัญชนคนธรรมดา,เปรมไม่ได้เป็นเจ้าหรือเป็นราชวงค์ หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีพี่น้องประชาชนออกมาร่วมวิพากษ์วิจารณ์

การวิพากษ์วิจารณ์เปรมได้รับการต่อต้านจากลูกสมุนเปรมอย่างแข็งขัน ในขณะเดียวกันการวิพากษ์วิจารณ์เปรมก็เริ่มขยายไปสู่วงกว้างมากขึ้น จนเปรมกลายเป็นที่เกลียดชังของผู้คนจำนวนมาก จากความเกลียดชังก็ได้พัฒนามาเป็นความเครียดแค้น จึงเริ่มมีการด่าทอและใช้ถ้อยคำรุนแรงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งกลายมาเป็นการขับไล่และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี ถึงช่วงนี้พวกลูกสมุนที่เรียกตัวเองว่าลูกป๋าลูกหมาทั้งหลายต่างก็เริ่มหดหางถอยห่าง นับได้ว่าเป็นช่วงที่อัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของเปรมจนไม่อาจมองหน้าผู้คนในสังคม ถึงกับไม่กล้าเปิดบ้านให้มีการอวยพรเนื่องในวันเกิดและในเทศกาลวันปีใหม่ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา

ผมเข้าใจว่าเปรมคงต้องแทรกแผ่นดินหนีหาย หรือไม่ก็ต้องฆ่าตัวตายหนีความอัปยศไปแล้ว และผู้ที่ชุบเลี้ยงและสนับสนุนเปรมก็คงต้องได้รับบทเรียนอันเป็นสัจจธรรมที่ว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว และคงได้คิดแล้วว่าการดำรงตำแหน่งประมุขอันเป็นตำแหน่งสูงสุดของประเทศนั้น จะคิดชั่วทำชั่ว ใช้ให้คนที่ตัวเองชุบเลี้ยงเที่ยวกำจัดผู้คนตามอำเภอใจด้วยความริษยา เป็นเรื่องที่ไม่สมควรและไม่อาจทำได้ ผมเคยเขียนเปิดทางเพื่อให้โอกาสกษัตริย์ภูมิพลในท้ายบทความเรื่อง กษัตริย์ ว่า

สถาบันกษัตริย์อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนานนับพันปี ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าบุคคลที่ได้ชื่อว่าคนไทยทุกคนไม่มีใครต้องการโค่นล้มให้สิ้นไปจากแผ่นดินอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องหาจุดร่วมที่เหมาะสม และอย่าให้พวกมักง่ายอยากโตทางลัดนำไปใช้ประโยชน์ในการทำลายล้างคนดีคนเก่ง เพียงแค่ต้องการให้พ้นเส้นทางเพื่อพวกมันจะได้ไม่มีคู่แข่ง

ผมมีความจำเป็นที่ต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับพี่น้องคนไทยที่กำลังต่อสู้อยู่ในเวลานี้ และอยากขอร้องพี่น้องที่มีความท้อแท้และเบื่อหน่ายกับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อหรือแนวทางการต่อสู้ไม่ตรงกับที่ต้องการของพี่น้องบางคน ได้โปรดอย่าเพิ่งท้อแท้สิ้นหวัง ขอความกรุณาออกมาร่วมแรงร่วมใจต่อสู้ อย่าให้โจรมันครองเมืองได้เป็นอันขาด เวลานี้แนวร่วมของเรามีอยู่ทั่วทุกภาคส่วน ใครชอบแนวทางไหนก็ขอให้เข้าร่วมกับกลุ่มที่ท่านชื่นชอบ ประชาธิปไตยต้องเปิดกว้าง เพียงแต่ต้องมีเป้าหมายเดียวกันและที่สำคัญต้องรู้ให้ตรงกันด้วยว่า ศัตรูของเราคือใคร

เข้าทำนอง
แม่น้ำร้อยสายไหลมารวมกัน

การข่มเหงรังแก, กลั่นแกล้ง, ใส่ร้ายป้ายสี, ยัดเยียดความผิด, ตลอดจนการพยายามลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร จากลุ่มคนที่รับใช้ใกล้ชิดฯ ผมมองดูแล้วไม่แตกต่างไปจากผู้มีอิทธิพลและมากด้วยบารมี (จอมปลอม) เลี้ยงหมาฝูงใหญ่ไว้เห่าหอนและไล่กัดผู้คนตามใจชอบ โดยมีเปรมเป็นหัวหน้าหมาที่เรียกว่าจ่าฝูงคอยควบคุมดูแลฝูงหมา เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าเจ้าของฝูงหมาซึ่งเป็นผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินไม่รู้เห็นเป็นใจและให้การสนับสนุน จากที่เคยแอบสนับสนุนอย่างลับๆโดยผ่านจ่าฝูง และการให้โอวาทแก่ฝูงหมาที่พลางตัวอยู่ตามองค์กรต่างๆ ซึ่งโดยนัยก็คือคำสั่งนั่นเอง จากนั้นฝูงหมาก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ด้วยการยึดอำนาจล้มล้างระบอบประชาธิป ไตย, ตัดสินความผิดแบบไม่ต้องอิงหลักกฏหมาย ทั้งนี้เพื่อต้องการทำลายคุณทักษิณและกลุ่มนักการเมืองน้ำดีให้พ้นเส้นทางการเมือง

โดยมีเป้าหมายคือการยุบพรรคการ เมือง
ไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศ วิธีการดังกล่าวนอกจากขัดสายตาของคนที่มีใจรักความเป็นธรรมทุกคนแล้ว ยังเป็นการฝืนความ รู้สึกของคนไทยทั้งในและนอกประเทศอีกต่างหาก

ความจริงในอดีตที่ผ่านมาการจะสั่งการหรือออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เขาจะทำกันอย่างลับๆ ไม่ประเจิดประเจ้อและโจ่งแจ้งเช่นในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคุณทักษิณเป็นผู้นำที่มีต้นทุนทางสังคมสูง อันสืบเนื่องจากมีผลงานมากมายเป็นที่จับต้องได้และโดนใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้คนจำนวนมากที่อยู่ภายใต้อิทธิพลตามองค์กรต่างๆให้ออกมาร่วมด้วยช่วยกัน ด้วยคิดว่าความเป็นผู้มากบารมีของตัวเองจะสามารถทำให้มีแนวร่วมเกลียดชังคุณทักษิณเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะการใส่ร้ายป้ายสีและข้อกล่าวหาต่างๆนั้นมีเจตนาผูกโยงให้คุณทักษิณมีความขัดแย้งกับองค์ประมุขในสายตาของคนทั่วไป

ขณะเดียวกันก็สามารถใช้กฏหมายหมิ่นฯทำลายล้างกลุ่มคนที่สนับสนุนคุณทักษิณและกดทับไม่ให้คนทั้งแผ่นดินวิพากษ์วิจารณ์ อันถือได้ว่าเป็นการมัดมือชกสำหรับการต่อสู้

หุ่นกระบอกการเมืองตอนที่ ๓ ผมได้ยกโอวาท ที่มีนัยเป็นคำสั่งนำเสนอไปแล้ว (กลับ ไปอ่านดูนะครับ) วันนี้ขอยกมาประกอบบทความอีกสักครั้งดังนี้ครับ

พระราชดำรัส พระราชทานแก่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙

การปกครองแบบประชาธิปไตย ดำเนินการไม่ได้แล้ว ถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณเมื่อตะกี้นี้ ก็เป็นหมัน ถึงบอกว่าจะต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตย ต้องดำเนินการไปได้ ท่านก็เลยทำงานไม่ได้ และถ้าท่านทำงานไม่ได้ ก็มีทางหนึ่ง ท่านอาจจะต้องลาออก เพราะไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา

อีกข้อหนึ่ง การที่จะ ที่บอกว่า มีการยุบสภา และต้อง ต้องเลือกตั้งภายใน ๓๐ วัน ถูกต้องหรือไม่ ไม่พูดเลย ไม่พูดกันเลย ถ้าไม่ถูก ก็จะต้องแก้ไข แต่ก็อาจจะให้การเลือกตั้งนี้ เป็นโมฆะหรือเป็นอะไร ซึ่งท่านจะมี จะมีสิทธิ ที่จะบอกว่า อะไรที่ควร ที่ไม่ควร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น