นอกจากนี้แล้วสิงคโปร์ยังแสวงหาประโยชน์จากการเป็นพ่อค้าคนกลางในการจำหน่ายผลิตผลการเกษตร
ไม่ว่าจะเป็นข้าว น้ำตาลและยางพารา โดยอาศัยกลไกการควบคุมตลาด คุมขนส่งและการเงินการธนาคาร สร้างความร่ำรวยจนกระทั่งสามารถเข้ามายึดครองธุรกิจธนาคารและธุรกิจสำคัญถึงในประเทศไทย การที่สิงคโปรสามารถใช้ประเทศไทยเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญ ซึ่งไม่แตกต่างไปจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศสิงคโปร์นั้น ก็สืบเนื่องจากผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินรู้เห็นเป็นใจ ทำตัวเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่เอื้อประโยชน์ให้กับประเทศสิงคโปร์โดยไม่สนใจประชาชนและพี่น้องเกษตรกรว่าจะยากจนเพราะถูกกดขี่อย่างไร
ดังนั้นการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแก้ไขปัญหายางพาราด้วยวิธีการตัดพ่อค้าคนกลางอย่างประเทศสิงคโปร์ แม้จะประสพความสำเร็จที่ทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของชาวสวนยาง แต่ในทางกลับกันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ส่งผลให้คุณทักษิณต้องตกที่นั่งลำบากอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ (กิจการธนาคาร และธุรกิจสำคัญของไทยที่ประเทศสิงคโปร์ยึดครองล้วนแล้วแต่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือครองหุ้นอยู่ด้วยทั้งนั้นครับ)
นี่ผมยังไม่ได้กล่าวถึงการเจอบ่อแก๊สที่ขุดพบในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
ที่
โดยที่พี่น้องประชาชนคนไทยเป็นผู้สูญเสียเหมือนเดิมหรือไม่
ผมมีความจำเป็นที่ต้องเชิญชวนท่านผู้อ่านเดินย้อนรอยอดีตเพื่อให้เห็นเป็นภาพชัดเจนดังนี้
สมัยที่ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้น พระเจ้าแผ่นดินเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ การคมนาคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งจะอาศัยเส้นทางแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นพื้นที่เรียบแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งจึงได้ถูกกำหนดชัดเจนว่าเป็นที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ ผมจะขอกล่าวถึงในบางส่วนที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร โดยจะเริ่มตั้งแต่พื้นที่บริเวณคลองเตย ไล่มายันท่าน้ำราชวงค์ จนไปถึงปากคลองตลาดและเลยไปสิ้นสุดแค่ท่าเตียน นี่ยังไม่รวมพื้นที่ๆเป็นทำเลทองอย่างเช่น ถนนทรงวาด สำเพ็ง ราชวงค์และคลองถม ที่ไกลออกไปก็มีราชดำริ บริเวณสวนลุมฯลฯ จนนับไม่ไหวจำได้ไม่หมด
นายสนธิ ลิ้มทองกุลก็ยังนำมาเป็นช่องทางการต่อสู้ด้วยการประกาศ “ลูกจีนกู้ชาติ” ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพสูงยิ่งอีกด้วย
ก็มีเรื่องเกี่ยวกับนโยบายที่จะสร้างถนนเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยเหตุผลเท่าที่ผมจำได้ก็คือ
๑. ป้องกันไม่ให้ผู้คนนำขยะและสิ่งปฏิกูลไปทิ้งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
๒. ป้องกันน้ำท่วม
๓. ช่วยบรรเทาการจารจรที่คับคั่งขึ้นทุกวัน
เมื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ครอบครอบที่ดินอยู่ครึ่งค่อนเมือง การที่จะจ้างใครมาวางผังเมือง แล้วไม่สามารถเวณคืนที่ดินในส่วนที่สำนักงานทรัพย์สินฯถือครอง ก็ป่วยการละครับที่จะมาพูดถึงการวางผังเมืองให้เสียเวลา ผมถึงได้บอกไงครับว่า
สถาบันพระมหากษัตริย์นี่แหละครับที่เป็นเครื่องถ่วงความเจริญ
ที่ทำให้ประเทศชาติไม่อาจพัฒนาได้ การที่รถติดและน้ำท่วมที่เป็นปัญหาเรื้อรังจวบจนกระทั่งทุกวันนี้ ภูมิพลไม่อาจนำมาเป็นเหตุผลในการโฆษณาได้อีกต่อไปนะครับว่าเป็นห่วงประชาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการหนีบแผนที่ออกมากำกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ได้เห็นในแต่ละปีนั้น คงจะขายไม่ได้อีกต่อไป เพราะคนไทยทั้งแผ่นดินบัดนี้ได้รู้เช่นเห็นชาติกับสถาบันฯอันจอมปลอมอย่างหมดเปลือกแล้วครับ
วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
อาคม ซิดนี่ย์
arkomsydney@yahoo.com.au
Copyright © 2009 arkomsydney
ติดตามบทความย้อนหลังและรับฟังรายการ “ชกหมัดตรง”ได้ที่ www.arkomsydney.com
อ่านแล้วกรุณาส่งต่อ